4 พฤศจิกายน 2566 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในการประชุมมอบนโยบายให้กับส่วนราชการในจังหวัดพะเยา และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมี นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายนิรันดร์ มูลธิดา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายพงศธร ศรีชัย สหกรณ์จังหวัดพะเยา ผู้บริหารหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมประชุม ณ อาคารสโมสรพนักงานเทศบาลเมืองจังหวัดพะเยา อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา

   สำหรับการประชุมในครั้งนี้ ได้มีการนำเสนอแนวทางการขับเคลื่อนด้านการเกษตรในจังหวัดพะเยา โดยผู้บริหารหน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งแบ่งเป็น 3 กลุ่มภารกิจ ได้แก่ กลุ่มภารกิจด้านการผลิต กลุ่มภารกิจด้านบริหารจัดการทรัพยากรเพื่อการผลิต และกลุ่มภารกิจด้านส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรและระบบสหกรณ์ ทั้งนี้ ในส่วนของกรมส่งเสริมสหกรณ์ อธิบดีฯ ได้นำเสนอเกี่ยวกับการขับเคลื่อนสินค้าข้าวหอมมะลิในจังหวัดพะเยา ซึ่งปีที่ผ่านมากรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยสหกรณ์ในจังหวัดพะเยา รวบรวมข้าวได้ทั้งหมด 140,000 ตัน ซึ่งคิดเป็นประมาณ 40% ของข้าวหอมมะลิในจังหวัดพะเยาที่ออกมาประมาณ 300,000 ตัน มูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,400 ล้านบาท ส่วนในปีการผลิต 2566/67 ได้วางเป้าหมายให้สหกรณ์ในจังหวัดพะเยาเป็น 150,000 ตัน ซึ่งคิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของผลผลิตข้าวหอมมะลิในจังหวัดพะเยาที่ออกมา โดยใช้กลไกสินเชื่อรวบรวมข้าวกับสินเชื่อชะลอการเก็บรักษาข้าวจาก ธ.ก.ส. ในส่วนนี้ ข้าวของจังหวัดพะเยา เมื่อรวบรวมได้แล้วส่วนใหญ่จะส่งออกไปแปรรูปที่ต่างจังหวัด โดยสิ่งที่จะทำเพิ่มขึ้น คือ ให้แปรรูปข้าวหอมมะลิของจังหวัดพะเยา และใช้แบรนด์ของจังหวัดพะเยา อย่างเช่น สหกรณ์การเกษตรจุน จำกัด ใช้แบรนด์ว่าข้าวหอมละมุน ซึ่งเป็นข้าวของจังหวัดพะเยา รวมทั้งร่วมกับทางภาคเอกชนในจังหวัดพะเยาในการเพิ่มการบริโภคข้าวหอมมะลิพะเยา อีกทั้งเรื่องการตลาดจะดึง อ.ต.ก. มาร่วมด้วยในเรื่องการส่งออกข้าวหอมมะลิในตลาดในประเทศ

   นอกจากนี้ เรื่องของการพัฒนาการเลี้ยงโคเนื้อ จะร่วมกับกรมปศุสัตว์เพื่อให้มีผลผลิตโคเนื้อส่งเข้าสหกรณ์ เพราะตรงนั้นมีอุปกรณ์ในการทำเรื่องของโคที่ได้รับการสนับสนุนจากกรมปศุสัตว์ให้กับสหกรณ์ และมีโคที่จะป้อนเข้าโรงงานเพื่อที่จะเชือดให้มีกำลังการผลิตที่คุ้มกับต้นทุนที่ต้องจ่าย และวางแผนร่วมมือกับกรมปศุสัตว์ในเรื่องการส่งเสริมผู้เลี้ยงพืชอาหารสัตว์ เพื่อให้มีโคเข้ามาที่สหกรณ์ เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรในจังหวัดพะเยาที่เป็นกลุ่มผู้เลี้ยงโคเนื้ออีกด้วย