23 กันยายน 2566 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่พบปะประชาชน ติดตามการดำเนินงาน ณ ท่าเทียบเรือกัลปังหา อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด โดยมี นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายนิรันดร์ มูลธิดา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายสมศักดิ์ กรีธาธร ผู้ตรวจราชการกรม เขตตรวจราชการที่ 8 และ 9

 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่พบปะประชาชน ติดตามการดำเนินงาน ณ ท่าเทียบเรือกัลปังหา อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด โดยมี นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายนิรันดร์ มูลธิดา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายสมศักดิ์ กรีธาธร ผู้ตรวจราชการกรม เขตตรวจราชการที่ 8 และ 9 คณะผู้บริหารหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย
 จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางไปยังอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อพบปะเกษตรกร และรับฟังปัญหา พร้อมมอบนโยบายแนวทางแก้ไขปัญหาฯ ในการนี้ ได้มอบเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. 4-01 ให้แก่เกษตรกร และมอบเงินสนับสนุนโครงการชุมชนประมงเข้มแข็ง ให้แก่ผู้แทนชุมชน รวมทั้งมอบปัจจัยการผลิตปรับปรุงบำรุงดิน ปัจจัยจากกรมการข้าว ให้แก่ผู้แทนเกษตรกรอีกด้วย
 ทั้งนี้ จังหวัดตราดเป็นพื้นที่ที่มีทรัพยากรสัตว์น้ำอุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งทำการประมงที่สำคัญ ทั้งประมงพื้นบ้าน และประมงพาณิชย์ รวมทั้งพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทั้งชายฝั่งและน้ำจืด ผลผลิตสัตว์น้ำของจังหวัดตราด มีมากกว่า 82,779 ตัน คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 5,599.80 ล้านบาท ผลผลิตจากการทำการประมง 55,643 ตัน มูลค่า 2,344.21 ล้านบาท ผลผลิตจากการเพาะเลี้ยง 27,136 ตัน มูลค่า 3,255.59 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับปากจะช่วยแก้ไขปัญหาพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งมีความเข้มงวดและเป็นอุปสรรคต่อการทำประมงในปัจจุบัน โดยชาวประมงเสนอให้มีแนวทางบรรเทาผลกระทบในช่วงการเปลี่ยนผ่านของกฎหมาย และจะช่วยดูราคากุ้งตกต่ำ ทั้งกุ้งแวนนาไม กุ้งกุลาดำ และกุ้งก้ามกราม ซึ่งมีปัจจัยมาจากโรคระบาดและต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ขอให้มั่นใจว่าจะร่วมแก้ปัญหาให้กับพี่น้องชาวประมงทั้ง 22 จังหวัด ที่มีพื้นที่ติดทะเล